เมื่อ"ประยุทธ"ให้เวลา2ปีทะเลาะกันให้จบ
ลุ้นกันจน “บางฝ่าย” แทบจะนั่งไม่ติด ถึงขั้นประกาศจองพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในเวลา 14.00 น. ของวันที่ 13 ก.ค. ที่จะถึงนี้
ประเด็นในการวินิจฉัยคดีครั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ 4 ประเด็น ประกอบด้วย
1. อำนาจฟ้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสอง
2. ปัญหาเรื่องมาตรา.291.ว่าจะสามารถยกเลิกหรือแก้ไขได้ทั้งฉบับหรือไม่
3. ปัญหาในมาตรา 68 วรรค 1 ว่าเป็นการล้มล้างหรือได้มาซึ่งอำนาจหรือไม่ และ
4. ผลของการกระทำดังกล่าวจะมีเหตุให้ยุบพรรคหรือตัดสิทธิทางการเมืองตามมาตรา 68 วรรค 3 และวรรคท้ายหรือไม่
รัฐบาลและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งความหวังไว้ว่า ขอให้หยุดการวินิจฉัยอยู่แค่ประเด็นที่ 2
วันก่อนได้ยิน นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“หากผลออกมาในแนวทางดังกล่าวจริง ๆ ส่วนตัวเชื่อว่าจะกลายเป็นผลดี เพราะจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งรวดเร็วมากขึ้น เพราะไม่ต้องมีการตั้ง ส.ส.ร. แล้ว โดยให้ ส.ส. และ ส.ว. ไปยื่นร่างแก้ไขเป็นรายมาตรามาใหม่ได้ อย่างน้อยเร็วขึ้นอีก 8 เดือนกว่า ดังนั้นใครที่คิดจะค้านก็จะค้านไม่ได้แล้ว”
เหมือนนายอุดมเดชจะบอกว่าไม่ว่าจะอย่างไรการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเกิดขึ้น และข้อครหาที่ว่า “ชงเอง กินเอง” ก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักต่อไปเพราะเป็นการแก้ไขโดยส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความจริงก็เป็น “ภาพหนึ่ง” ในภาพใหญ่ทั้งหมดของความ
ขัดแย้งในบ้านเมือง
ในการเสวนา “เอทานอล : อนาคตพลังงานทดแทนไทย ยุทธศาสตร์ความมั่งคั่งและความมั่นคงของชาติ” ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะกรรมการนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 2550 กล่าวไว้ช่วงหนึ่ง “น่าคิด” ว่า
“ขอให้ทุกคนระลึกว่า เวลาของเราน้อยลง เพราะมีเวลาอีกแค่ 2 ปี ก็จะเปิดประชาคมอาเซียนที่จะต้องมีการถกเถียงกับนอกประเทศ ถ้าจะทะเลาะก็ทะเลาะกันให้จบใน 2 ปีนี้ ก่อนเปิดประเทศอาเซียน”
ใน “สหภาพยุโรป” กรีซ ได้กลายเป็นตัวถ่วงเพราะเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่สำหรับประชาคมอาเซียน ระวังประเทศอย่างวันนี้ยังหาวิธีการ “ขจัดความขัดแย้ง” ตลอด 5 ปีออกไปไม่ได้ ก็อาจจะมีปัญหาเช่นกรีซ
“2 ปี” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เวลาทะเลาะกันให้จบนั้น ถือว่า “ไม่มากและไม่น้อยเกินไป”.
ประเด็นในการวินิจฉัยคดีครั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ 4 ประเด็น ประกอบด้วย
1. อำนาจฟ้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสอง
2. ปัญหาเรื่องมาตรา.291.ว่าจะสามารถยกเลิกหรือแก้ไขได้ทั้งฉบับหรือไม่
3. ปัญหาในมาตรา 68 วรรค 1 ว่าเป็นการล้มล้างหรือได้มาซึ่งอำนาจหรือไม่ และ
4. ผลของการกระทำดังกล่าวจะมีเหตุให้ยุบพรรคหรือตัดสิทธิทางการเมืองตามมาตรา 68 วรรค 3 และวรรคท้ายหรือไม่
รัฐบาลและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งความหวังไว้ว่า ขอให้หยุดการวินิจฉัยอยู่แค่ประเด็นที่ 2
วันก่อนได้ยิน นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“หากผลออกมาในแนวทางดังกล่าวจริง ๆ ส่วนตัวเชื่อว่าจะกลายเป็นผลดี เพราะจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งรวดเร็วมากขึ้น เพราะไม่ต้องมีการตั้ง ส.ส.ร. แล้ว โดยให้ ส.ส. และ ส.ว. ไปยื่นร่างแก้ไขเป็นรายมาตรามาใหม่ได้ อย่างน้อยเร็วขึ้นอีก 8 เดือนกว่า ดังนั้นใครที่คิดจะค้านก็จะค้านไม่ได้แล้ว”
เหมือนนายอุดมเดชจะบอกว่าไม่ว่าจะอย่างไรการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเกิดขึ้น และข้อครหาที่ว่า “ชงเอง กินเอง” ก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักต่อไปเพราะเป็นการแก้ไขโดยส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความจริงก็เป็น “ภาพหนึ่ง” ในภาพใหญ่ทั้งหมดของความ
ขัดแย้งในบ้านเมือง
ในการเสวนา “เอทานอล : อนาคตพลังงานทดแทนไทย ยุทธศาสตร์ความมั่งคั่งและความมั่นคงของชาติ” ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะกรรมการนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 2550 กล่าวไว้ช่วงหนึ่ง “น่าคิด” ว่า
“ขอให้ทุกคนระลึกว่า เวลาของเราน้อยลง เพราะมีเวลาอีกแค่ 2 ปี ก็จะเปิดประชาคมอาเซียนที่จะต้องมีการถกเถียงกับนอกประเทศ ถ้าจะทะเลาะก็ทะเลาะกันให้จบใน 2 ปีนี้ ก่อนเปิดประเทศอาเซียน”
ใน “สหภาพยุโรป” กรีซ ได้กลายเป็นตัวถ่วงเพราะเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่สำหรับประชาคมอาเซียน ระวังประเทศอย่างวันนี้ยังหาวิธีการ “ขจัดความขัดแย้ง” ตลอด 5 ปีออกไปไม่ได้ ก็อาจจะมีปัญหาเช่นกรีซ
“2 ปี” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เวลาทะเลาะกันให้จบนั้น ถือว่า “ไม่มากและไม่น้อยเกินไป”.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น