วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

เปลวสีสีเงิน

เมื่อยิ่งลักษณ์ยืนยัน การนำประเทศตัวเองไปด่าประจานให้คนอื่นฟังในเวทีโลก ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนคือประชาธิปไตย ก็หมดประเด็นที่ต้องพูดกัน ยิ่งในนาม "คณะรัฐมนตรี" บอกว่า...นี่คือปาฐกถาที่สะท้อนความเป็นจริงของไทยครบถ้วน ถูกต้อง แหลมคม ทรงพลัง พร้อมทั้งให้นำปาฐกถานั้นเผยแพร่สู่ประชาชนให้กว้างขวาง ผมก็คงต้องบอกว่า
    "ขอบคุณครับ!"
    ที่ตบหน้าประเทศไทย-คนไทยได้ครบถ้วน-ถูกต้องที่สุด.....
    แหลมคมทิ่มฝ่าเท้าทะลุหัวใจ เจ็บปวดทรงพลังกว่าที่ครอบครัวผมได้รับที่สุด!!
    จะว่าไปแล้ว ลุ พ.ศ.นี้ ไม่มีอะไรในประเทศไทย ที่ทักษิณและ "ครอบครัวชินวัตร" ทำแล้วประชาชนหรือองค์กรไหนกล้าหือ แต่หื่นอาจมีบ้าง 
    ในเมื่อ สถาบันบริหาร-สถาบันรัฐสภา-ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ-ครู-อาจารย์-มหาวิทยาลัย-อัยการ-บริหารท้องถิ่น-สื่อ กระทั่งวัด-พระ-แพะ บางคน-บางพวก....
    พร้อมเพื่อ "วงศ์ชินวัตร"!?
    ความจริงนายกฯ ยิ่งลักษณ์นอกจากใบหน้าหวานแล้ว ลูกตาทั้ง ๒ ข้างออกจะ "หวานจัด" เป็นพิเศษด้วย ก็เพิ่งสังเกตชัดๆ จากรูปที่ยืนปาฐกถาที่อูลาน-บาตอร์นี่แหละ หะแรกก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก จนเมื่อวาน จ้องดูตาดำตอนให้สัมภาษณ์นักข่าวในเรื่องเหล่านี้...
    อืมมมม..ตาสาวเจ้า "หวาน" จริงๆ ด้วย!
    แต่โบราณท่านไม่ให้เรียกว่า "หวาน" สำหรับผู้หญิง และก็ไม่ให้เรียกตาเข-ตาส่อน แต่ให้เรียกว่า ตาซื่อ-ตาใส เรียกกันไป-เรียกกันมา ลงตัวเป็น "สาวตาใสซื่อ" 
    เพราะสาวเจ้าตาใสซื่อนี่เอง การพูด-การทำ จึงซื่อใสมาตลอด กระทั่ง "อุจจารวาท" ที่อูลาน-บาตอร์ เธอซื่อใสแบบส่อนๆ ว่า...ความเจ็บปวดที่ครอบครัวดิฉันได้รับ จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของประเทศไทย!
    ในขณะที่ประชาชนคนไทยฟังแล้ว "ตาขุ่น-ตาขวาง" อยากตะโกนบอกเธอผ่านลำไส้ใหญ่ให้ไปก้องในทำเนียบฯ ว่า
    "การแยกแผ่นดิน-กินโกงแบบปล้นชาติ มุ่งล้มระบอบ-ล้มสถาบันของขบวนการทักษิณ นี่คือความเจ็บปวดที่ประชาชนได้รับ หวังว่านี่จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของประเทศไทย-คนไทย" 
    ตามตำรา "พิเคราะห์เนตรมหาบรรลัยจักร" มีอรรถาธิบายถึงลักษณะตาทุรลักษณ์และคุณลักษณ์ไว้มากมายหลายชนิด แต่ผมจำไม่หมด 
    จำได้แต่ฝอยโทษตาทุรลักษณ์ มีประมาณว่า คนคนนั้น ซ่อนเล่ห์ ซ่อนนัย ปากอย่างหนึ่ง-ใจอย่างหนึ่ง คบยาก เชื่อยาก เลี้ยงก็ไม่เชื่อง ชีวิตจะพลิกผัน เด้งขึ้น-ดันลง ด้วยอาณัติหัตถ์ดาวมฤตยู+เกตุ 
    ทำนองบางคนปากว่า...ไม่แก้แค้น-แต่แก้ไข แต่การกระทำกลับแก้อีกอย่าง เพื่ออีกอย่าง...ซะงั้น!
    แต่เอาหละ...ในเมื่อรัฐบาลระบอบทักษิณยกย่องว่า อุจจารวาทของยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ แหลมคม-ทรงพลัง ผมเชื่อเป็นกรณีพิเศษ คือเชื่อว่า ครั้งนี้...ยิ่งลักษณ์เอาความจริง จาก....
    "จิตสังหรณ์" มาพูด!?
    "จิตสังหรณ์" ที่มีความน่าจะเป็นชนิด "มา-ไป" แบบฉับพลัน ไม่มีสัญญาณล่วงหน้าให้ทันตั้งตัว ซึ่งนี่...มันจะเป็นความเจ็บปวด "ครั้งสุดท้าย" ของประเทศไทยแล้ว
     เพราะครอบครัวที่บิดเบือนประชาธิปไตยและเฉือนแทะประเทศ เดินทางใกล้ถึงจุดขีดเส้นใต้เป็น "หมายเหตุประเทศไทย" จะไม่เหลืออะไรและใครให้เป็นความเจ็บปวดอยู่ในแผ่นดินนี้อีก!
    The Longest Day ของทักษิณมาถึงแล้ว "พี่มากพระโขนง" สถิติสูงสุดประเทศไทย ยังไงๆให้ไม่เกิน ๘๐๐ ล้าน แต่วันเผด็จศึกของ "พี่แม้วจันทร์ส่องหล้า" ทลายสถิติโลก กู้ล้างประเทศ ๒ ล้านล้านบาท ฉะนั้น จะได้...ต้องเผด็จศึก!
    แนวรบเพื่อไทย...พร้อม
    แนวรบ นปช. ...พร้อม
    แนวรบรัฐสภา...พร้อม
    แนวรบทำเนียบฯ...พร้อม
    แนวรบไพร่ริมถนน...พร้อม
    แนวรบนอกประเทศ...พร้อม
    แนวรบมะเขือเทศ...พร้อม
    แนวรบแตงโม...พร้อม
    แนวรบโล้นเหลือง...พร้อม
    แนวรบสื่อทุกสาขา...พร้อม 
    แนวรบ'จารย์มหา'ลัย...พร้อม
    โอ้โห...พร้อมทุกแนวรบ ประเทศไทยและ "สถาบันตุลาการ" ตกอยู่ภายใต้วงล้อมกองทัพใต้ร่มธงทักษิณที่เกณฑ์ระดมมาจากทั่วทุกสารทิศ ตั้งค่ายตีโอบเป็นปีกอีแร้ง-หางเหี้ย แลไปทางไหนสุดลูกหู-ลูกตา ฝุ่นปลิวตลบคละคลุ้งทั้งวันคืนด้วยรี้พลสกลไกรเคลื่อนย้ายขยายขยับกันยังไม่สิ้น
    กองทัพเพื่อไทย "มติเป็นเอกฉันท์" ประกาศอิสรภาพ "ไม่อยู่ใต้อำนาจสถาบันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" อีกต่อไป เย้ย....ศาลรัฐธรรมนูญ "ไม่มีอำนาจ" ที่พวกเขาจะต้องรับฟัง-รับปฏิบัติอีกไปแล้ว!
    ส่วนกองทัพ นปช.เสื้อแดง ส่งกำลังส่วนหนึ่งไปปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกองกำลังผสมจากแนวรบกเฬวรากบ้าง 'จาร์มหา'ลัยบ้าง โล้นเหลืองบ้าง สื่อวิทยุ-ดาวเทียมบ้าง ได้รับคำสั่งให้ตรึงไว้ ไล่ล่าตัวตุลาการไปก่อน
    ไว้รอสมทบ "กองทัพจากแนวรบใหญ่" ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงรอสัญญาณจากโคโมโดตัวการที่กำลังวางแผนให้เปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญ "ดันกฎหมายล้างโทษ" ฉบับเบ็ดเสร็จ "พร้อมตะลุยแก้รัฐธรรมนูญชนิด...ให้ราบเป็นหน้ากลอง" ในเมื่อประกาศอิสรภาพจากอำนาจตุลาการแล้ว
    ก็ไม่ต้องกลัวใคร...กลัว "แม้ว-นายใหญ่" แต่ผู้เดียว! 
    "หน่วยกำลังรัฐ" บางส่วนพร้อมสวามิภักดิ์ ฝ่ายบู๊-ฝ่ายบุ๋น-ฝ่ายเช็ดไข่ ประจำการครบ เรื่องเสบียงกรังไม่ต้องพูดถึง ๓.๕ แสนล้าน ตุงกระเป๋าซ้าย ๒ ล้านล้านตุงกระเป๋าขวา ไม่นับเศษๆ เลี้ยงหมา จากงบซื้อข้าว งบต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ งบประจำปี
    แล้วยังที่บูรณาการไว้อีก ๓๐-๕๐% ล่ะ!?
    "โอยยยย...มันเป็นความเจ็บปวดที่ครอบครัวดิฉันได้รับสุดที่จะทนนิ่งโดยไม่เคลื่อนไหว 'ยึดไทยทั้งประเทศ' ไว้ทำมาหาแดกเลี้ยงครอบครัวได้เลย"
    เดิมพัน ๒ ล้านล้านมันลอยอยู่ตรงหน้า แค่เอื้อมมือคว้าก็เข้ากระเป๋าแล้ว ฉะนั้น จะอ้อยสร้อยต้อยติ่งเป็นตูดลิงเสนอีกต่อไปไม่ได้ จึงต้องเด็ดขาด-เผด็จศึก
    "ทุกแนวรบ" ต้องลุย รื้อ-ล้าง-โละ แนวรบด้านรัฐสภาและด้านทำเนียบฯ ต้องผนึก แล้วดัน "กฎหมายนิรโทษ" ให้ทักษิณกลับเข้ามา ก่อนกันยานี้ให้ได้  
    เพื่อนฝูงใน เพื่อไทย-นปช.-เสื้อแดงน่ะ...ทักษิณรักใคร่ทุกคน
    แต่กับเงิน ๒ ล้านล้านน่ะ....
    เรื่องรักใคร่เพื่อนฝูง ก็ส่วนรักใคร่ แต่เรื่องไว้ใจนั้น ตัวเอง....กับเงินตัวเองยังโกงเลย ฉะนั้น ขอไม่ไว้ใจใครดีกว่า เงินใหญ่ก้อนนี้ ได้มาจะยิ่งกว่า "พญามังกรเสียบปีก"!
    "แล้วมันจะเป็นความเจ็บปวดของครอบครัวดิฉันขนาดไหน.....ถ้าไม่ช่วยพี่ชาย 'ยึดประเทศไทย' ให้สำเร็จ?"

'ด้วยความเจ็บปวดครอบครัว'


   เมื่อยิ่งลักษณ์ยืนยัน การนำประเทศตัวเองไปด่าประจานให้คนอื่นฟังในเวทีโลก ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนคือประชาธิปไตย ก็หมดประเด็นที่ต้องพูดกัน ยิ่งในนาม "คณะรัฐมนตรี" บอกว่า...นี่คือปาฐกถาที่สะท้อนความเป็นจริงของไทยครบถ้วน ถูกต้อง แหลมคม ทรงพลัง พร้อมทั้งให้นำปาฐกถานั้นเผยแพร่สู่ประชาชนให้กว้างขวาง ผมก็คงต้องบอกว่า
    "ขอบคุณครับ!"
    ที่ตบหน้าประเทศไทย-คนไทยได้ครบถ้วน-ถูกต้องที่สุด.....
    แหลมคมทิ่มฝ่าเท้าทะลุหัวใจ เจ็บปวดทรงพลังกว่าที่ครอบครัวผมได้รับที่สุด!!
    จะว่าไปแล้ว ลุ พ.ศ.นี้ ไม่มีอะไรในประเทศไทย ที่ทักษิณและ "ครอบครัวชินวัตร" ทำแล้วประชาชนหรือองค์กรไหนกล้าหือ แต่หื่นอาจมีบ้าง 
    ในเมื่อ สถาบันบริหาร-สถาบันรัฐสภา-ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ-ครู-อาจารย์-มหาวิทยาลัย-อัยการ-บริหารท้องถิ่น-สื่อ กระทั่งวัด-พระ-แพะ บางคน-บางพวก....
    พร้อมเพื่อ "วงศ์ชินวัตร"!?
    ความจริงนายกฯ ยิ่งลักษณ์นอกจากใบหน้าหวานแล้ว ลูกตาทั้ง ๒ ข้างออกจะ "หวานจัด" เป็นพิเศษด้วย ก็เพิ่งสังเกตชัดๆ จากรูปที่ยืนปาฐกถาที่อูลาน-บาตอร์นี่แหละ หะแรกก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก จนเมื่อวาน จ้องดูตาดำตอนให้สัมภาษณ์นักข่าวในเรื่องเหล่านี้...
    อืมมมม..ตาสาวเจ้า "หวาน" จริงๆ ด้วย!
    แต่โบราณท่านไม่ให้เรียกว่า "หวาน" สำหรับผู้หญิง และก็ไม่ให้เรียกตาเข-ตาส่อน แต่ให้เรียกว่า ตาซื่อ-ตาใส เรียกกันไป-เรียกกันมา ลงตัวเป็น "สาวตาใสซื่อ" 
    เพราะสาวเจ้าตาใสซื่อนี่เอง การพูด-การทำ จึงซื่อใสมาตลอด กระทั่ง "อุจจารวาท" ที่อูลาน-บาตอร์ เธอซื่อใสแบบส่อนๆ ว่า...ความเจ็บปวดที่ครอบครัวดิฉันได้รับ จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของประเทศไทย!
    ในขณะที่ประชาชนคนไทยฟังแล้ว "ตาขุ่น-ตาขวาง" อยากตะโกนบอกเธอผ่านลำไส้ใหญ่ให้ไปก้องในทำเนียบฯ ว่า
    "การแยกแผ่นดิน-กินโกงแบบปล้นชาติ มุ่งล้มระบอบ-ล้มสถาบันของขบวนการทักษิณ นี่คือความเจ็บปวดที่ประชาชนได้รับ หวังว่านี่จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของประเทศไทย-คนไทย" 
    ตามตำรา "พิเคราะห์เนตรมหาบรรลัยจักร" มีอรรถาธิบายถึงลักษณะตาทุรลักษณ์และคุณลักษณ์ไว้มากมายหลายชนิด แต่ผมจำไม่หมด 
    จำได้แต่ฝอยโทษตาทุรลักษณ์ มีประมาณว่า คนคนนั้น ซ่อนเล่ห์ ซ่อนนัย ปากอย่างหนึ่ง-ใจอย่างหนึ่ง คบยาก เชื่อยาก เลี้ยงก็ไม่เชื่อง ชีวิตจะพลิกผัน เด้งขึ้น-ดันลง ด้วยอาณัติหัตถ์ดาวมฤตยู+เกตุ 
    ทำนองบางคนปากว่า...ไม่แก้แค้น-แต่แก้ไข แต่การกระทำกลับแก้อีกอย่าง เพื่ออีกอย่าง...ซะงั้น!
    แต่เอาหละ...ในเมื่อรัฐบาลระบอบทักษิณยกย่องว่า อุจจารวาทของยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ แหลมคม-ทรงพลัง ผมเชื่อเป็นกรณีพิเศษ คือเชื่อว่า ครั้งนี้...ยิ่งลักษณ์เอาความจริง จาก....
    "จิตสังหรณ์" มาพูด!?
    "จิตสังหรณ์" ที่มีความน่าจะเป็นชนิด "มา-ไป" แบบฉับพลัน ไม่มีสัญญาณล่วงหน้าให้ทันตั้งตัว ซึ่งนี่...มันจะเป็นความเจ็บปวด "ครั้งสุดท้าย" ของประเทศไทยแล้ว
     เพราะครอบครัวที่บิดเบือนประชาธิปไตยและเฉือนแทะประเทศ เดินทางใกล้ถึงจุดขีดเส้นใต้เป็น "หมายเหตุประเทศไทย" จะไม่เหลืออะไรและใครให้เป็นความเจ็บปวดอยู่ในแผ่นดินนี้อีก!
    The Longest Day ของทักษิณมาถึงแล้ว "พี่มากพระโขนง" สถิติสูงสุดประเทศไทย ยังไงๆให้ไม่เกิน ๘๐๐ ล้าน แต่วันเผด็จศึกของ "พี่แม้วจันทร์ส่องหล้า" ทลายสถิติโลก กู้ล้างประเทศ ๒ ล้านล้านบาท ฉะนั้น จะได้...ต้องเผด็จศึก!
    แนวรบเพื่อไทย...พร้อม
    แนวรบ นปช. ...พร้อม
    แนวรบรัฐสภา...พร้อม
    แนวรบทำเนียบฯ...พร้อม
    แนวรบไพร่ริมถนน...พร้อม
    แนวรบนอกประเทศ...พร้อม
    แนวรบมะเขือเทศ...พร้อม
    แนวรบแตงโม...พร้อม
    แนวรบโล้นเหลือง...พร้อม
    แนวรบสื่อทุกสาขา...พร้อม 
    แนวรบ'จารย์มหา'ลัย...พร้อม
    โอ้โห...พร้อมทุกแนวรบ ประเทศไทยและ "สถาบันตุลาการ" ตกอยู่ภายใต้วงล้อมกองทัพใต้ร่มธงทักษิณที่เกณฑ์ระดมมาจากทั่วทุกสารทิศ ตั้งค่ายตีโอบเป็นปีกอีแร้ง-หางเหี้ย แลไปทางไหนสุดลูกหู-ลูกตา ฝุ่นปลิวตลบคละคลุ้งทั้งวันคืนด้วยรี้พลสกลไกรเคลื่อนย้ายขยายขยับกันยังไม่สิ้น
    กองทัพเพื่อไทย "มติเป็นเอกฉันท์" ประกาศอิสรภาพ "ไม่อยู่ใต้อำนาจสถาบันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" อีกต่อไป เย้ย....ศาลรัฐธรรมนูญ "ไม่มีอำนาจ" ที่พวกเขาจะต้องรับฟัง-รับปฏิบัติอีกไปแล้ว!
    ส่วนกองทัพ นปช.เสื้อแดง ส่งกำลังส่วนหนึ่งไปปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกองกำลังผสมจากแนวรบกเฬวรากบ้าง 'จาร์มหา'ลัยบ้าง โล้นเหลืองบ้าง สื่อวิทยุ-ดาวเทียมบ้าง ได้รับคำสั่งให้ตรึงไว้ ไล่ล่าตัวตุลาการไปก่อน
    ไว้รอสมทบ "กองทัพจากแนวรบใหญ่" ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงรอสัญญาณจากโคโมโดตัวการที่กำลังวางแผนให้เปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญ "ดันกฎหมายล้างโทษ" ฉบับเบ็ดเสร็จ "พร้อมตะลุยแก้รัฐธรรมนูญชนิด...ให้ราบเป็นหน้ากลอง" ในเมื่อประกาศอิสรภาพจากอำนาจตุลาการแล้ว
    ก็ไม่ต้องกลัวใคร...กลัว "แม้ว-นายใหญ่" แต่ผู้เดียว! 
    "หน่วยกำลังรัฐ" บางส่วนพร้อมสวามิภักดิ์ ฝ่ายบู๊-ฝ่ายบุ๋น-ฝ่ายเช็ดไข่ ประจำการครบ เรื่องเสบียงกรังไม่ต้องพูดถึง ๓.๕ แสนล้าน ตุงกระเป๋าซ้าย ๒ ล้านล้านตุงกระเป๋าขวา ไม่นับเศษๆ เลี้ยงหมา จากงบซื้อข้าว งบต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ งบประจำปี
    แล้วยังที่บูรณาการไว้อีก ๓๐-๕๐% ล่ะ!?
    "โอยยยย...มันเป็นความเจ็บปวดที่ครอบครัวดิฉันได้รับสุดที่จะทนนิ่งโดยไม่เคลื่อนไหว 'ยึดไทยทั้งประเทศ' ไว้ทำมาหาแดกเลี้ยงครอบครัวได้เลย"
    เดิมพัน ๒ ล้านล้านมันลอยอยู่ตรงหน้า แค่เอื้อมมือคว้าก็เข้ากระเป๋าแล้ว ฉะนั้น จะอ้อยสร้อยต้อยติ่งเป็นตูดลิงเสนอีกต่อไปไม่ได้ จึงต้องเด็ดขาด-เผด็จศึก
    "ทุกแนวรบ" ต้องลุย รื้อ-ล้าง-โละ แนวรบด้านรัฐสภาและด้านทำเนียบฯ ต้องผนึก แล้วดัน "กฎหมายนิรโทษ" ให้ทักษิณกลับเข้ามา ก่อนกันยานี้ให้ได้  
    เพื่อนฝูงใน เพื่อไทย-นปช.-เสื้อแดงน่ะ...ทักษิณรักใคร่ทุกคน
    แต่กับเงิน ๒ ล้านล้านน่ะ....
    เรื่องรักใคร่เพื่อนฝูง ก็ส่วนรักใคร่ แต่เรื่องไว้ใจนั้น ตัวเอง....กับเงินตัวเองยังโกงเลย ฉะนั้น ขอไม่ไว้ใจใครดีกว่า เงินใหญ่ก้อนนี้ ได้มาจะยิ่งกว่า "พญามังกรเสียบปีก"!
    "แล้วมันจะเป็นความเจ็บปวดของครอบครัวดิฉันขนาดไหน.....ถ้าไม่ช่วยพี่ชาย 'ยึดประเทศไทย' ให้สำเร็จ?"

ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด"

 หลังจากเปิดโต๊ะพูดคุยเพื่อสันติภาพรอบ 2 ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อบีอาร์เอ็นต่อรองให้ไทยทำตามข้อเสนอ 5 ข้อก่อนถึงจะลดความรุนแรงลง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าการที่ ฮัสซัน ตอยิบ แถลง 5 ข้อเสนอผ่านยูทูบก่อนเจรจาเพียงวันเดียวเท่ากับตบหน้าทีมเจรจาฝ่ายไทย และยังมองว่าเป็นการเจรจาผิดตัวหรือกำลังหลงเข้าทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ปฏิเสธว่า "ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ ยังมั่นใจสถานการณ์ดีขึ้นหลังมีการสื่อสารไปยังฝ่ายปฏิบัติการ และรัฐบาลพร้อมพูดคุยกับทุกกลุ่มที่มีความเห็นต่าง" ถือว่าเลขาฯ สมช.ยังมองโลกในแง่ดีและยังไม่หมดหวังกับการพูดคุย ซึ่งขณะนี้ก็ไม่ตางจากเวทีเจรจาต่อรองกันแล้ว...0
    ไม่มีใครปฏิเสธการเจรจา เพราะสงครามทุกสนามรบก็ล้วนจบลงที่โต๊ะเจรจา แต่กระบวนการที่จะไปถึงโต๊ะเจรจาต่างหากที่หลายฝ่ายท้วงติงว่าฝ่ายไทยยังขาดความรัดกุมรอบคอบ ข้อเสนอฝ่ายไทยไม่ใช่เรื่องยากหากบีอาร์เอ็นมีความจริงใจหรือคุมฝ่ายปฏิบัติการได้จริง หยุดก่อเหตุรุนแรงให้ดูสัก 1-2 เดือน ก็พิสูจน์ได้ทันทีว่าเป็นของจริงหรือของปลอม แต่ขณะที่มีการเจรจา ประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็ยังถูกเข่นฆ่ารายวัน แสดงว่าฝ่ายปฏิบัติการไม่ฟังแกนนำผู้อาวุโส หรือเป็นการ "แยกกันเดินร่วมกันตี" และอาจมีความหวังว่ารัฐไทยกำลังหลงทางติดกับดักในการนำปัญหาไปสู่ระดับสากลเพื่อสร้าง "รัฐปัตตานี" ดังนั้นที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เสนอแนะว่า "ขอให้ตัวแทนของ สมช.มีความเป็นมืออาชีพในการต่อรองและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้" จึงเป็นเรื่องที่ สมช.ควรรับไปพิจารณาก่อนจะถลำลึกไปกว่านี้...0 
    ส่วนเรื่องนี้ก็ถือเป็นการตบหน้าเหมือนกัน แต่เป็นการตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ กรณี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปปาถกฐาพิเศษในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย โดยไม่รู้กาลเทศะ และสถานะของตัวเองว่าเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นน้องสาว นักโทษหนีคดี สำหรับเนื้อหาที่เธอพูดนั้นคงไม่มีใครเชื่อว่าเธอคิดเอง-พูดเองได้ขนาดนั้น รุ่งขึ้นอีกวัน เธอก็พูดวนเวียนได้แค่คำว่า "เป็นอุทาหรณ์มากกว่า ซึ่งไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก" ขณะที่บรรดากระบอกเสียงรัฐบาลและลิ่วล้อก็เรียงหน้ามาปกป้องยกย่องการปาถกฐานดังกล่าวราวกับว่าเป็นประกาศคณะผู้ต่อต้านประชาธิปไตยแห่งชาติทำนองนั้น...0
    ทั้งที่เนื้อหาทั้งหมดเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์การเมืองไทย พูดเอาดีใส่ตัว-เอาชั่วใส่คนอื่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ จึงตอกกลับว่า "นอกจากจะโกหกอย่างหน้าด้านแล้ว ยังแสดงความโง่ของตนด้วย โง่ตรงที่ไปบอกเขาว่าบ้านเมืองยังไม่สงบแล้วก็เชิญชวนให้เขามาลงทุน และโง่ตรงที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา คุมทั้งทหารและตำรวจ แล้วไปยอมรับว่ายังทำอะไรกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตยไม่ได้" ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน สวนกลับว่า "ในประเทศไทยไม่มีกลุ่มต่อต้านประชาธิปไตย มีแต่กลุ่มต่อต้านทักษิณ ต่อต้านการผูกขาดอำนาจและกินรวบประเทศ" และเชื่อว่ากลุ่มต่อต้านทักษิณยังคงปฏิบัติการต่อต้านการกินรวบจนถึงที่สุด...0
    บทบาทของ ยิ่งลักษณ์ แสดงความเป็นนายกฯ นอมินีชัดเจนทุกวัน ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่นอกประเทศ ก็โชว์บทบาท นายกฯ ตัวจริง ชัดเจนทุกวัน โดยสไกป์มาสั่งการ ส.ส.คอกเพื่อไทย เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประกาศหนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ โดยบอกว่า "จะทำอะไรควรทำอะไรให้มันสุดซอย ร่างของวรชัย เหมะ เหมือนเดินไปครึ่งๆ กลางๆ มันไม่สุดซอย" ก็ชัดเจนว่า น.ช.ทักษิณ สั่งให้ ส.ส.หนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทุกเสื้อสีและล้างความผิดให้ตัวเองด้วย แต่ที่น่าสมเพชคือ น.ช.ทักษิณ คร่ำครวญว่า "ขอให้ ส.ส.สามัคคีกันไว้ให้แน่น ให้นึกถึงผมบ้าง ยังลอยคอในทะเล อย่าให้ลอยคอนาน มันหนาว จะเป็นปอดบวมตายอยู่แล้ว อยากกลับบ้าน" สงสัยได้ปอดบวมตายสมพรปาก...0
    น.ช.ทักษิณและลิ่วล้อเหมือนกันอยู่อย่างคือ ปากอ้างประชาธิปไตย แต่มีพฤติกรรมเยี่ยงเผด็จการ กลุ่มเสื้อแดงในนามกลุ่มสื่อวิทยุเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ชุมนุมกดดันให้ตุลาการรัฐธรรมนูญลาออกถึงขั้นประกาศจับตัว 9 ตุลาการฯ ถือว่าเป็นการใช้เสรีภาพเกินขอบเขตและคุกคามสิทธิเสรีภาพบุคคลอื่น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จึงได้จัดงาน วันเสรีภาพสื่อมวลชน World Press Freedom Day 3 พ.ค.นี้ ภายใต้แคมเปญว่า "เสรีภาพ...ที่ไม่คุกคาม" เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่าย สื่อมวลชนทุกแขนง กลุ่มการเมืองทุกเสื้อสี ใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ ไม่คุกคามบุคคลอื่น เพื่อสร้างบรรยากาศการหาทางออกจากความขัดแย้งด้วยปัญญาและเหตุผล...0