เมื่อรัฐบาล...ตายแล้ว!!!
ท่านขุนน้อย
เริ่มต้นเข้าสู่ศักราชใหม่
ปีม้า ปีมะเมีย พอศอ สอง-ห้า-ห้า-เจ็ด เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...แล้วคราวนี้
จะเอาไง...ต่อไปดี
ต่อคำถามที่ว่านี้....แน่ล่ะว่าผู้ที่จะต้องให้คำตอบคงไม่ใช่มีแต่เฉพาะคุณพี่
เทพเทือก และพวก ตลอดไปจนบรรดามวลมหาประชาชนที่กำลังกระเหี้ยนกระหือรือคิดจะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้จงได้เท่านั้น...
----------------------------------------------------
แต่สำหรับผู้ที่กำลังดิ้นรน
ทุรนทุราย พยายามหาทางขัดขวางการปฏิรูปตามวิถีทางของมวลมหาประชาชนในทุกๆ เรื่อง
ทุกๆ กรณี อันได้แก่ รัฐบาลรักษาการเถื่อนของคุณน้อง ปู ยิ่งลักษณ์ นั่นแหละ
ในฐานะผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ในอันที่จะต้องเร่งหาคำตอบออกมาให้ได้ว่า
ถ้าหาก ไม่คิดจะเอา ตามความเรียกร้อง ต้องการของมวลมหาประชาชน แล้วจะ เอาไง กันต่อ
อีกทั้งสิ่งที่ตัวเองต้องการ จะเอา นั้น ไปๆ-มาๆ แล้วมันจะ เอาอยู่ หรือไม่
ไม่งั้น...โอกาสที่จะถูกม้าดีดกะโหลก ตกม้าตาย ในอีกแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง
นับจากนี้ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ!!!
-----------------------------------------------------
พูดง่ายๆ
ว่า...โอกาสที่จะปล่อยให้มวลชนนับแสน นับล้าน กองระเกะระกะอยู่ตามท้องถนนสายต่างๆ
ต่อไปเรื่อยๆ มันคงแทบเป็นไปไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว
เพราะมีแต่จะทำให้ความเป็นรัฐบาลเถื่อนยิ่งดูเถื่อนหนักขึ้นไปอีก แทบไม่หลงเหลือสภาพความเป็นผู้ถือครองอำนาจรัฐติดปลายนวมเอาไว้เลยแม้แต่นิด
เหลือแต่ กองโจร ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่จำพวก ที่อาศัย
เครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คอยตอดนิด ตอดหน่อย สร้างอุปสรรค
ขัดขวางการเคลื่อนไหวมวลชนในบางช่วง บางระยะ หรือช่วยพิสูจน์ ยืนยันว่า
ตัวเองนั้น...ยังไม่ถึงกับ ตายสนิท ยังคงสามารถหายใจผ่านทางท่อ
ทางเครื่องช่วยหายใจ จนกว่าจะมีใครกระชากหน้ากากออกซิเจนออกไปให้พ้นๆ
เท่านั้นเอง...
------------------------------------------------------------
ยิ่งถ้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปอีกแค่ไม่กี่วันนับจากนี้...ถึงแม้จะยังผะงาบๆ
ได้ต่อไป แต่โอกาสที่จะเกิดอาการในแบบที่เรียกกันในวงการแพทย์ว่า Clinical Death หรือ การตายในทางการแพทย์
นั้น ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ คือสมองตาย
ระบบการไหลเวียนโลหิตไม่คิดจะทำหน้าที่ อันเนื่องมาจากศูนย์กลางประสาท
หรือศูนย์รวมอำนาจการบริหารจัดการประเทศทั้งประเทศ
ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น ทั้งปวง มีสิทธิ์ถูกไวรัส เทพเทือก
เล่นงานซะจนเดี้ยง เป็นอัมพาต ไปประมาณครึ่งตัว หรือตลอดทั้งตัวได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์
และเมื่อถึงจังหวะนั้น...คงเหลือแต่ต้องนิมนต์พระให้ขึ้นไปบนเมรุ สวดกุศลา ธัมมา
ซักสามรอบ สี่รอบ เพื่อแจ้งให้ทราบถึง การตายอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเผาแห้ง เผาสด
ไปตามธรรมเนียมประเพณีอันดี...
------------------------------------------------------------
แต่ถึงแพทย์พิสูจน์แล้ว
พระสวดแล้ว ยังไม่คิดจะยอมรับความตายกันโดยดุษณี ยังพยายามลากศพ เก็บศพ
เอาไว้รอจังหวะกระตุ้นหัวใจ ในช่วงการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ต่อไปให้จงได้
การเลือกตั้งที่ได้จำนวน ส.ส.ไม่ครบ 95 เปอร์เซ็นต์
ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดเอาไว้ในมาตรา 93
ย่อมต้องส่งผลให้เกิดการตายซ้ำ ตายซาก กันอีกจนได้ สภาที่ไม่มีสภาพเป็นสภาครบถ้วน
สมบูรณ์ ตามคุณลักษณะที่รัฐธรรมนูญได้ระบุเอาไว้
นอกจากจะไม่สามารถแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว
ยังไม่สามารถคว้าเอากฎหมายนิรโทษกรรมที่ดองเอาไว้ครบ 180 วัน มาปัดฝุ่น
ปลุกวิญญาณปีศาจให้กลับมาจุติในร่างมนุษย์ อย่างที่หวัง
ที่คาดเอาไว้แต่แรกได้เลย...
--------------------------------------------------------------
สรุปง่ายๆ ว่า...ยังไงๆ
ย่อมมีแต่ ตาย...กับ...ตาย มองไม่เห็นทางรอด ทางฟื้น ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย
สำหรับสถานภาพความเป็นรัฐบาลของรัฐบาลเถื่อน ณ ขณะนี้ และในอนาคตเบื้องหน้า
นอกเสียจากต้องหาทางกวาดล้าง บดขยี้ มวลมหาประชาชนนับล้านๆ ให้สิ้นซาก สิ้นเชื้อ
ลงไปก่อนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ให้จงได้!!! ซึ่งงานนี้...จะอาศัยแค่พละกำลังของ
กองโจร ล้วนๆ ย่อมไม่มีทางสำเร็จ ไม่มีวันบรรลุจุดมุ่งหมายอยู่แล้วแน่ๆ
กว่าช่วงระยะเวลาร่วม 2 เดือนเข้าไปแล้ว
เป็นที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า เฉพาะแค่ กลไกตำรวจ ย่อมรับมือ “กองทัพมวลชน” ไม่ได้โดยเด็ดขาด
เหลือแต่ต้องอาศัย กลไกทางทหาร อย่างเป็นทางการเท่านั้น ที่อาจพอช่วยรื้อฟื้น
อำนาจรัฐ ให้ดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้มั่ง...
------------------------------------------------------------------
แต่อย่างว่านั่นแหละ...ถึงจะมีฐานะ ตำแหน่ง เป็นผู้นำทางทหาร
เป็นรัฐมนตรีกลาโหม โดยทางนิตินัย แต่การสั่งการ บัญชาการให้ทวยทหารทั้งหลาย
ระดมสรรพกำลังออกมาช่วยปั๊มหัวใจให้กับศพที่หมดสภาพ
หมดความชอบธรรมทั้งในทางนิตินัยและพฤตินัยลงไปเรียบร้อยแล้วนั้น
ไม่ว่าทหารรายไหนต่อรายไหนย่อมต้อง ทำใจลำบาก ไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้กระทั่งประเภท
มีวันนี้...เพราะพี่ให้ ก็เถอะ หลังๆ นี้มีแต่ต้อง ปลอดภัยเอาไว้ก่อน ซะเป็นหลัก
แม้จะได้เห็นภาพรัฐมนตรีกลาโหมเดินนำหน้าผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ เข้าเยี่ยมเยียน
กราบกราน อดีตนายทหารอย่าง ป๋าเปรม ผู้ที่ทวยทหารทั้งหลายให้ความเคารพ ยกย่อง มาโดยตลอด
ได้อย่างสง่า ผ่าเผย แต่เมื่อ ป๋า ท่านดันมอบ เนคไท
ให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่รัฐมนตรีกลาโหม
อันนี้...กลับยิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกน่าสยดสยองหนักขึ้นไปใหญ่!!!
คือไม่รู้ว่าท่านกรุณามอบไว้ให้ผูกคอซอง หรือมอบไว้ให้ผูกคอตาย
ยังคงต้องอาศัยสติปัญญา ตีความและแปลความกันอีกเยอะ...
------------------------------------------------------------------
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้
คงต้องสรุปว่า...ถ้ารัฐบาลยังคงไม่อาจให้คำตอบได้อย่างชัดเจน
แจ่มแจ้งว่า...แล้วจะเอายังไงกันดี หรือจะเอายังไงกันต่อไปในวันข้างหน้า
สุดท้าย...สภาพ ความเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเถื่อน หรือไม่เถื่อน มันมีแต่จะต้องสูญสิ้น
หมดสิ้นลงไป ดีไม่ดี...อาจหมดลงไปก่อนที่จะถึงวันที่ 2 กุมภา.ซะด้วยซ้ำ
ถึงไม่คิดจะลาออก หรือไม่ยอมเอ่ยคำว่าลาออกอย่างเป็นทางการ
แต่รัฐบาลซึ่งไม่สามารถบริหารจัดการบ้านเมืองได้อีกต่อไป
ในแง่สัจธรรมและข้อเท็จจริงแล้ว...มันก็คือรัฐบาลที่ ตายไปแล้วอย่างเป็นทางการ
นั่นเอง...
------------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก David Gergen... “Morality
in government begins with officials using words as honestly as possible to
describe the truth.- คุณธรรมในความเป็นรัฐบาลจะเริ่มปรากฏให้เห็น
เมื่อบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐเริ่มหันไปใช้ถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการอธิบายความจริง...”.
------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น