เปลว สีเงิน
แค่กำนันสุเทพเล่นบท
"หนุมานจองถนน" ก่อนยึดกรุงลงกาหน่อยเดียว พวกอสูรไม่ว่าตัวเมีย-ตัวผู้
แยกเขี้ยวเสียวสะท้านกันยกใหญ่
ลงกาชั้นในก็ระดมทัพยักษ์อำมาตย์กากีรับมือ ลงการอบนอก มารตู่-มารเต้น เกณฑ์พลยักษ์ไพร่
นัยว่าจะให้แดงออกมาลบสถิติ "๑๐ ล้านมวลมหาประชาชน" นั่นเชียว
สรุปว่า จันทร์ที่ ๑๓ มกรา ๕๗
ถนนทุกสายในประเทศไทยจะถูกแปลงสภาพเป็น "ถนนคนเดิน"
พร้อมกันทั่วทั้งประเทศ
โดยแบ่งโซนเจ้าภาพกันไป
"ในกรุงเทพฯ" กำนันสุเทพ นำมวลมหาประชาชนเป็น
"ดอกไม้ประชาธิปไตย" บานทั่วกรุง เทศกาลประชาชนปฏิวัติ
ส่วนโซนต่างจังหวัด ยกเว้นจังหวัดบริวาร กทม.
นังมารร้ายมอบให้ นปช.โดยตู่-เต้น เป็นเจ้าภาพ
เกณฑ์เสื้อแดงออกมาแสดงแสนยานุภาพประชัน
คนจัดน่ะ..พอรู้ แต่คนจ่าย บอกหน่อยซิเจ๊...ใครจ่าย
ใช้งบกลาง งบลับ งบจังหวัด หรือเป็นอีเวนต์ ลาสต์ ซัปเปอร์
"หลอกแดกแม้ว"?
แล้วแบบนี้ เที่ยวพูดว่า
มวลมหาประชาชนปิดเมือง-ปิดประเทศในลักษณะผู้ทำลายได้อย่างไร
เพราะผู้ตื่นรู้ มีจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ
ออกมาขับเน้นประชาธิปไตยคุณธรรม เป็นภาพลักษณ์ "ผู้สร้าง" สู่อนาคตใหม่!
ไม่ใช่ภาพซาตานผู้ทำลาย เหมือนอย่างปี ๕๒-๕๓
ที่ออกมาเมื่อไหร่ หมายถึงความฉิบหายทำลายล้าง บ้านต้องไหม้ เมืองต้องวายวอด
ขนาดเบาะๆ ออกมาที่สนามราชมังคลาฯ วันก่อน
"นักศึกษารามฯ" ยังต้องหามทั้งศพ ทั้งคนเจ็บ!
สำหรับมวลมหาประชาชนพิสูจน์แล้ว ๒-๓ ครั้ง
ออกมาเฉียด ๑๐ ล้าน ภาพแทนที่จะเป็นมุมลบ กลับเป็นภาพบวกสวยงาม
ปลุก "ชีวิต" ประชาธิปไตยไทยให้มี
"ชีวา" โดยมหาประชาชนผู้ตื่นแล้ว ไม่ยอมให้อสูรร้าย
"สิงประชาธิปไตย" โกงบ้าน-กินเมืองอีกต่อไป
มวลมหาประชาชนล้นเมืองขนาดนั้น
แก้วน้ำซักใบยังไม่แตก นั่นแสดงถึงคุณภาพแห่งชีวิต-จิตวิญญาณ
"ประชาชนปฏิวัติ"
ออกมาด้วยอารยะ
ไม่ได้ออกมาเยี่ยงสัตว์ป่ากระหายหิว เป็นสัญญาณบอกถึงอนาคตข้างหน้า....
โดยมหาประชาชน
ที่ไม่ยอมงอมือ-งอตีนให้กับทรราชระบอบทักษิณ ประเทศไทยหลังประชาชนปฏิวัติ
ด้วยมหาประชาชนล้นฟูกรุงเทพฯ จะใสเหมือนแก้วเจียระไน!
ที่เห็นเป็นตำหนินิดๆ น่าเสียดายนั้น....
นั่นคือตะกวดในกรงทักษิณ ที่ออกมาตะกาย
สร้างราคีให้กับความใส และซ้ำร้าย รัฐบาลสำส่อนยังใช้เสนียดในตัวนั้น ป้ายสี....
"ดอกไม้ประชาธิปไตยมหาประชาชนที่จะบานพร้อมกันทั่วทุกถนนในกรุงเทพฯ
๑๓ มกรานั้น...
คือดอกไม้พิษ ฆ่าสังคมประเทศ"!?
ก็อยากจะบอก ดอกไม้ประชาธิปไตย
เป็นดอกไม้ทิพย์สำหรับผู้ตื่นรู้สังคมประชาธิปไตยคุณธรรม
เหมือนสายสิญจน์คล้องศีรษะ เป็นนวมงคล ไม่ฆ่าคนดี
แต่ฆ่าผี ฆ่าซาตาน ฆ่านังมารร้าย
ที่สิงคราบประชาธิปไตย กัดกิน ปอด ตับ ไต หัวใจ ไส้ พุงประเทศ เหมือนอย่างที่
"หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" เคยพูดไว้นั่นตะหาก
ประชาธิปไตยโดยมวลมหาประชาชนน่ะ
ขยายตัวเบ่งบานมากเท่าไหร่ คณะนังมารระบอบทักษิณมันต้องลอยดอกกระฉอกหนีมากเท่านั้น
ด้วยลางสังหรณ์เริ่มกรายหัวให้รู้ตัวว่า
ชีวิตโคตรชั่ว "ชั่วโมงสุดท้าย"
ใกล้ถึงแล้ว!
ถามว่า แล้ว ๒ กุมภาจะมีเลือกตั้งจริงหรือ
เพราะ กกต.แถลงแล้วว่า ต้องเดินไปตามเงื่อนไขเวลาที่พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้?
ถ้าถาม กกต.ก็คงตอบว่า...มี
แต่ถ้าถามผม ตอบว่า...มี คือ ไม่มี!?
ที่ กกต.ตอบว่ามี ผมเดาทาง
เป็นทางแคบ-ทางบังคับที่ต้องตอบด้วยอับจนใจ และคำว่า "มี" ของท่าน
มีในความหมาย....ไปตายเอาดาบหน้า
รอศาลฎีกามีคำวินิจฉัยสำหรับผู้ไปแจ้งความตำรวจไว้เป็นหลักฐานว่า
จะมีสิทธิ์ได้เป็นผู้ลงรับเลือกตั้งหรือไม่?
แต่ดูปัจจัยรอบด้านแล้ว
มองไม่เห็นประโยชน์ที่จะละลายงบกว่า ๓,๐๐๐ ล้าน
ไปกับการเลือกตั้ง ที่เลือกเสร็จแล้ว ส.ส.ไม่ถึง ๙๕% เปิดสภาฯ ไม่ได้
ยิ่ง ๗-๑๐ ม.ค.นี้ รัฐบาล รัฐสภา
ส.ส.-ส.ว.๓๐๐ กว่าคน ล้วนมีอนาคตแขวนอยู่บนขื่อคาของ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ
เป็น "อนาคตที่มืดมน" โดยแท้!
มันตอกย้ำการเดินทางสู่ "สุญญากาศ"
ทางการเมืองของไทยมากขึ้น..มากขึ้นโดยยังมิต้องมองถึงประเด็นว่า....
ขนาดวันรับสมัคร
ประชาชนยังต่อต้านการเข้าสู่อำนาจผ่านเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม
และมีปัญหากฎหมายมากมายขนาดนั้น แล้วถ้ามีเลือกตั้ง วันนั้น...
๒
กุมภา มหาประชาชน กับ ซาตานระบอบทักษิณ ไม่ต้องฆ่ากัน ๗๗ จังหวัดหรือ?
มหาประชาชนผู้ตื่นรู้ไม่ได้ขัดขวางการเลือกตั้ง
หากแต่ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งด้วยระบบและขบวนการที่ระบอบทักษิณเซตไว้
เพราะตลอดเส้นทางสู่รูปแบบเลือกตั้ง ๒ กุมภา
มันเป็นทางเถื่อนที่ระบอบทักษิณตัด แล้วปักป้ายเป็นถนนประชาธิปไตยสายหลัก
ให้หลงทาง!
ถ้าสังคมชาติ "ยอม"
ให้ระบอบทักษิณลากไปตามเส้นทางที่มันปูลาดในครั้งนี้ ชาติทั้งชาติ
ก็จะต้องสยบด้วยจำยอมอยู่ใต้ส้นตีนมัน ยาวนาน ชนิดไม่มีวันได้หลุด-ได้พ้น
ถึงรุ่นลูก-หลาน-เหลน-โหลน โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง
น้องไปป์ ต่อขยายเส้นทางไปถึงสายตระกูล ตู่-เต้น โน่นนนน!
ถ้าชอบกันอย่างนั้น ๑๓ มกรา
ก็ไปเดินตามตู่-เต้นเขา
แต่ถ้าตรองเห็นโทษภัยระบอบทักษิณอันมีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องการนำพาประเทศสู่อนาคตใหม่
ตามเส้นทางมวลมหาประชาชนปฏิวัติ
ก็ไปร่วมเป็น
ดอกไม้ประชาธิปไตยบานเช้า-บานสาย-บานบ่าย-บานค่ำ บานฉ่ำตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ทั่วกรุงเทพฯ กับกำนันสุเทพ
ของอย่างนี้ไม่ว่ากัน เป็นสิทธิ-เสรีภาพ
ที่จะคิด ที่จะทำ ที่จะแสดงออก ขอให้การแสดงออกนั้น อยู่บนฐาน สงบ-สันติ
ปราศจากอาวุธ ปราศจากความรุนแรง เป็นอันใช้ได้ทั้งนั้น
ใครจะเป็นดอกไม้ประชาธิปไตยบานกับกำนันสุเทพ
หรือ...จะไปเป็นดอกมารประชาธิปไตยบานกับ
นปช.ตู่-เต้น....?
อนาคตประเทศไทยอยู่ในกำมือแต่ละท่านแล้ว ด้วย
"หุ้นส่วนประเทศ" แต่ละท่าน....
จะให้ดอกไม้ประเทศบานด้วยมหาประชาชน...โปรดเป่านกหวีด
หรือจะให้บานด้วยมารระบอบทักษิณ...โปรดเขย่าตีนตบ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น