วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

วันที่ดอกไม้ประชาธิปไตยจะบาน







เปลว สีเงิน
    แค่กำนันสุเทพเล่นบท "หนุมานจองถนน" ก่อนยึดกรุงลงกาหน่อยเดียว พวกอสูรไม่ว่าตัวเมีย-ตัวผู้ แยกเขี้ยวเสียวสะท้านกันยกใหญ่
    ลงกาชั้นในก็ระดมทัพยักษ์อำมาตย์กากีรับมือ  ลงการอบนอก มารตู่-มารเต้น เกณฑ์พลยักษ์ไพร่ นัยว่าจะให้แดงออกมาลบสถิติ "๑๐ ล้านมวลมหาประชาชน" นั่นเชียว
    สรุปว่า จันทร์ที่ ๑๓ มกรา ๕๗ ถนนทุกสายในประเทศไทยจะถูกแปลงสภาพเป็น "ถนนคนเดิน" พร้อมกันทั่วทั้งประเทศ
    โดยแบ่งโซนเจ้าภาพกันไป "ในกรุงเทพฯ" กำนันสุเทพ นำมวลมหาประชาชนเป็น "ดอกไม้ประชาธิปไตย" บานทั่วกรุง เทศกาลประชาชนปฏิวัติ
    ส่วนโซนต่างจังหวัด ยกเว้นจังหวัดบริวาร กทม. นังมารร้ายมอบให้ นปช.โดยตู่-เต้น เป็นเจ้าภาพ เกณฑ์เสื้อแดงออกมาแสดงแสนยานุภาพประชัน
    คนจัดน่ะ..พอรู้ แต่คนจ่าย บอกหน่อยซิเจ๊...ใครจ่าย ใช้งบกลาง งบลับ งบจังหวัด หรือเป็นอีเวนต์ ลาสต์ ซัปเปอร์
    "หลอกแดกแม้ว"?
    แล้วแบบนี้ เที่ยวพูดว่า มวลมหาประชาชนปิดเมือง-ปิดประเทศในลักษณะผู้ทำลายได้อย่างไร
    เพราะผู้ตื่นรู้  มีจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ ออกมาขับเน้นประชาธิปไตยคุณธรรม เป็นภาพลักษณ์ "ผู้สร้าง" สู่อนาคตใหม่!
    ไม่ใช่ภาพซาตานผู้ทำลาย เหมือนอย่างปี ๕๒-๕๓ ที่ออกมาเมื่อไหร่ หมายถึงความฉิบหายทำลายล้าง บ้านต้องไหม้ เมืองต้องวายวอด
    ขนาดเบาะๆ ออกมาที่สนามราชมังคลาฯ วันก่อน "นักศึกษารามฯ" ยังต้องหามทั้งศพ ทั้งคนเจ็บ!
     สำหรับมวลมหาประชาชนพิสูจน์แล้ว ๒-๓ ครั้ง ออกมาเฉียด ๑๐ ล้าน ภาพแทนที่จะเป็นมุมลบ กลับเป็นภาพบวกสวยงาม
    ปลุก "ชีวิต" ประชาธิปไตยไทยให้มี "ชีวา" โดยมหาประชาชนผู้ตื่นแล้ว ไม่ยอมให้อสูรร้าย "สิงประชาธิปไตย" โกงบ้าน-กินเมืองอีกต่อไป
    มวลมหาประชาชนล้นเมืองขนาดนั้น แก้วน้ำซักใบยังไม่แตก นั่นแสดงถึงคุณภาพแห่งชีวิต-จิตวิญญาณ "ประชาชนปฏิวัติ"
    ออกมาด้วยอารยะ ไม่ได้ออกมาเยี่ยงสัตว์ป่ากระหายหิว เป็นสัญญาณบอกถึงอนาคตข้างหน้า....
    โดยมหาประชาชน ที่ไม่ยอมงอมือ-งอตีนให้กับทรราชระบอบทักษิณ ประเทศไทยหลังประชาชนปฏิวัติ ด้วยมหาประชาชนล้นฟูกรุงเทพฯ จะใสเหมือนแก้วเจียระไน!
    ที่เห็นเป็นตำหนินิดๆ น่าเสียดายนั้น....
    นั่นคือตะกวดในกรงทักษิณ ที่ออกมาตะกาย สร้างราคีให้กับความใส และซ้ำร้าย รัฐบาลสำส่อนยังใช้เสนียดในตัวนั้น ป้ายสี....
    "ดอกไม้ประชาธิปไตยมหาประชาชนที่จะบานพร้อมกันทั่วทุกถนนในกรุงเทพฯ ๑๓ มกรานั้น...
     คือดอกไม้พิษ ฆ่าสังคมประเทศ"!?
    ก็อยากจะบอก ดอกไม้ประชาธิปไตย เป็นดอกไม้ทิพย์สำหรับผู้ตื่นรู้สังคมประชาธิปไตยคุณธรรม เหมือนสายสิญจน์คล้องศีรษะ เป็นนวมงคล ไม่ฆ่าคนดี
    แต่ฆ่าผี ฆ่าซาตาน ฆ่านังมารร้าย ที่สิงคราบประชาธิปไตย กัดกิน ปอด ตับ ไต หัวใจ ไส้ พุงประเทศ เหมือนอย่างที่ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" เคยพูดไว้นั่นตะหาก
    ประชาธิปไตยโดยมวลมหาประชาชนน่ะ ขยายตัวเบ่งบานมากเท่าไหร่ คณะนังมารระบอบทักษิณมันต้องลอยดอกกระฉอกหนีมากเท่านั้น ด้วยลางสังหรณ์เริ่มกรายหัวให้รู้ตัวว่า
    ชีวิตโคตรชั่ว "ชั่วโมงสุดท้าย" ใกล้ถึงแล้ว!
    ถามว่า แล้ว ๒ กุมภาจะมีเลือกตั้งจริงหรือ เพราะ กกต.แถลงแล้วว่า ต้องเดินไปตามเงื่อนไขเวลาที่พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้?
    ถ้าถาม กกต.ก็คงตอบว่า...มี
    แต่ถ้าถามผม ตอบว่า...มี คือ ไม่มี!?
    ที่ กกต.ตอบว่ามี ผมเดาทาง เป็นทางแคบ-ทางบังคับที่ต้องตอบด้วยอับจนใจ และคำว่า "มี" ของท่าน มีในความหมาย....ไปตายเอาดาบหน้า
    รอศาลฎีกามีคำวินิจฉัยสำหรับผู้ไปแจ้งความตำรวจไว้เป็นหลักฐานว่า จะมีสิทธิ์ได้เป็นผู้ลงรับเลือกตั้งหรือไม่?
    แต่ดูปัจจัยรอบด้านแล้ว มองไม่เห็นประโยชน์ที่จะละลายงบกว่า ๓,๐๐๐ ล้าน ไปกับการเลือกตั้ง ที่เลือกเสร็จแล้ว ส.ส.ไม่ถึง ๙๕% เปิดสภาฯ ไม่ได้
    ยิ่ง ๗-๑๐ ม.ค.นี้ รัฐบาล รัฐสภา ส.ส.-ส.ว.๓๐๐ กว่าคน ล้วนมีอนาคตแขวนอยู่บนขื่อคาของ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ
    เป็น "อนาคตที่มืดมน" โดยแท้!
    มันตอกย้ำการเดินทางสู่ "สุญญากาศ" ทางการเมืองของไทยมากขึ้น..มากขึ้นโดยยังมิต้องมองถึงประเด็นว่า....
    ขนาดวันรับสมัคร ประชาชนยังต่อต้านการเข้าสู่อำนาจผ่านเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม และมีปัญหากฎหมายมากมายขนาดนั้น แล้วถ้ามีเลือกตั้ง วันนั้น...
    ๒ กุมภา มหาประชาชน กับ ซาตานระบอบทักษิณ ไม่ต้องฆ่ากัน ๗๗ จังหวัดหรือ?
    มหาประชาชนผู้ตื่นรู้ไม่ได้ขัดขวางการเลือกตั้ง หากแต่ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งด้วยระบบและขบวนการที่ระบอบทักษิณเซตไว้
    เพราะตลอดเส้นทางสู่รูปแบบเลือกตั้ง ๒ กุมภา มันเป็นทางเถื่อนที่ระบอบทักษิณตัด แล้วปักป้ายเป็นถนนประชาธิปไตยสายหลัก ให้หลงทาง!
    ถ้าสังคมชาติ "ยอม" ให้ระบอบทักษิณลากไปตามเส้นทางที่มันปูลาดในครั้งนี้ ชาติทั้งชาติ ก็จะต้องสยบด้วยจำยอมอยู่ใต้ส้นตีนมัน ยาวนาน ชนิดไม่มีวันได้หลุด-ได้พ้น
    ถึงรุ่นลูก-หลาน-เหลน-โหลน โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง น้องไปป์ ต่อขยายเส้นทางไปถึงสายตระกูล ตู่-เต้น โน่นนนน!
    ถ้าชอบกันอย่างนั้น ๑๓ มกรา ก็ไปเดินตามตู่-เต้นเขา  แต่ถ้าตรองเห็นโทษภัยระบอบทักษิณอันมีต่อสถาบันชาติ  ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องการนำพาประเทศสู่อนาคตใหม่ ตามเส้นทางมวลมหาประชาชนปฏิวัติ
    ก็ไปร่วมเป็น ดอกไม้ประชาธิปไตยบานเช้า-บานสาย-บานบ่าย-บานค่ำ บานฉ่ำตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทั่วกรุงเทพฯ กับกำนันสุเทพ
    ของอย่างนี้ไม่ว่ากัน เป็นสิทธิ-เสรีภาพ ที่จะคิด ที่จะทำ ที่จะแสดงออก ขอให้การแสดงออกนั้น อยู่บนฐาน สงบ-สันติ ปราศจากอาวุธ ปราศจากความรุนแรง เป็นอันใช้ได้ทั้งนั้น
    ใครจะเป็นดอกไม้ประชาธิปไตยบานกับกำนันสุเทพ
    หรือ...จะไปเป็นดอกมารประชาธิปไตยบานกับ นปช.ตู่-เต้น....?
    อนาคตประเทศไทยอยู่ในกำมือแต่ละท่านแล้ว ด้วย "หุ้นส่วนประเทศ" แต่ละท่าน....
    จะให้ดอกไม้ประเทศบานด้วยมหาประชาชน...โปรดเป่านกหวีด
     หรือจะให้บานด้วยมารระบอบทักษิณ...โปรดเขย่าตีนตบ!






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น