วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์เดลินิวส์

ต้องให้สมราคาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
วันอังคารที่ 25 กันยายน 2555
คงไม่จบลงโดยง่าย สำหรับคดี ที่ดินอัลไพน์ของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่แม้หลายฝ่ายจะยืนยันว่า มีความผิด แต่ถูก พ.ร.บ.ล้างมลทิน ชำระสะสางเป็นไปที่เรียบร้อย

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังประชุมคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า

พรรคจะดำเนินการกับนายยงยุทธใน3 ช่องทาง คือ

1. ให้ ส.ส. เข้าชื่อ 1 ใน 10 หรือ 50 คน เพื่อร้องต่อประธานสภา ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติ

2. ยื่นคำร้องไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา และ

3. ยื่นคำร้องไปที่ กกต. เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ

แม้หน่วยราชการทั้ง คณะกรรมการกฤษฎีกา และ อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทย จะมองว่า
เข้าข่าย เกี่ยวกับการล้างมลทิน แต่พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ไม่เข้าข่าย

โดยเฉพาะเหตุผลที่ว่า ในปี 2546
2548 นายยงยุทธ ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นกรรมการที่ปรึกษา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมช.สาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการบริหารการไฟฟ้านครหลวง และเป็นประธานกำกับดูแลกิจการไฟฟ้าด้วย ซึ่งหากในช่วงนั้นนายยงยุทธ ต้องโทษถูกไล่ออกก็จะขาดคุณสมบัติ จนไม่สามารถดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้ หากนายยงยุทธก็ดำรงตำแหน่งเรื่อยมา

กรณีนี้ จึงต้องให้ผู้มีหน้าที่ อย่างศาลรัฐธรรมนูญ กกต. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน
ชี้ขาด

หาก
เข้าข่าย ได้ล้างมลทิน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเก้าอี้รัฐมนตรีของนายยงยุทธ แต่หาก ไม่เข้าข่ายนอกจาก งานจะเข้าที่เจ้าตัวต้องรับไปเต็ม ๆ แล้ว ยังน่าจะ ลุกลามไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อีกด้วย

ในสภาพความจริงทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เวลานี้ บอกได้เลยว่า มีหลายคนที่มีคุณสมบัตินั่งเก้าอี้แทน นายยงยุทธ ได้อย่างสบาย

เอาแค่ที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น โภคิน พลกุล
, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช, สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ หรือแม้กระทั่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์

ต้องไม่ลืมว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว นายยงยุทธ มีความสำคัญยิ่ง เพราะทำหน้าที่เป็น หัวหน้าพรรค

นายยงยุทธ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 ต่อจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์

นายยงยุทธ สร้างผลงานเข้าตาเจ้าของพรรคตัวจริง ด้วยการจับสลากได้
เบอร์ 1 ในช่วงก่อนที่จะมีการรณรงค์เลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 54 ที่ผ่านมา

อย่าคิดว่า หัวหน้าพรรคนั้นใครจะมาเป็นกันง่าย ๆ ในกรณีของพรรคเพื่อไทย หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคถูก
ออกแบบไว้สู้กับการ ยุบพรรค ซึ่งจะต้องถูกเว้นวรรคการเมือง 5 ปี ตามไปด้วย

สวมหัวโขนหัวหน้าพรรคอันดับ 1 ทั้งที่
ใจคอจะไม่ให้มีฤทธิ์มีเดชบ้างเลยเชียวหรือ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น