วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์การเมือง:โพสต์ทูเดย์

111...เพิ่มความแข็งแกร่ง เพิ่มแรงกระเพื่อม
  • 03 พฤษภาคม 2555 |
มองข้ามช็อตไปหลังสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษแบนทางการเมือง !!!
การปรับ ครม.ปู 3” เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญกับการ ยกเครื่องดึงอดีตรัฐมนตรีมือดียุคไทยรักไทยมา เสริมกระดองปูดึงคะแนนให้รัฐบาลที่เวลานี้กำลังสะบักสะบอมกับปัญหาของแพง และนโยบายเศรษฐกิจที่ตุปัดตุเป๋ ไร้เสถียรภาพ
แม้แต่บทวิเคราะห์ล่าสุดจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ยังมองว่าการกลับมาร่วมงานกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยของสมาชิก 111 ที่จะพ้นโทษแบนสิ้นเดือน พ.ค.นี้ จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น และหลายคนจะได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้
ดังนั้น ภาพการปรากฏตัวของบ้านเลขที่ 111 ในงานฟุตบอลกระชับมิตร 4 เส้า ที่สนามเทพหัสดิน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่พวกเขาจะพ้นพันธนาการทางการเมืองในอีกไม่กี่สัปดาห์ จึงคล้ายเป็นสัญญาณของการออกมา อุ่นเครื่องข้างสนามคอยจังหวะเปลี่ยนตัว
สอดรับกับเงื่อนเวลาตาม สัญญาใจที่หล่อเลี้ยงความหวังบรรดาแคนดิเดตซึ่งมีคิวยาวเป็นหางว่าว ว่าจะมีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยน เก้าอี้ดนตรีกันทุกๆ 6 เดือน

หากนับจากการปรับครม.ปู 2” เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา การปรับ ครม.รอบต่อไปน่าจะเป็นช่วง พ.ค.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าวที่ว่ากันว่าจะเป็นการปรับเล็ก 2-3 ตำแหน่ง
ลึกๆ แล้ว ประเมินกันว่าการปรับ ครม.รอบใหม่นี้ จะดึงเวลาเพื่อรอดูท่าที อภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านเตรียมจ้องถล่มตั้งแต่เปิดสมัยประชุมสมัยทั่วไป 1 ส.ค. เนื่องจากติดเงื่อนไขไม่สามารถยื่นอภิปรายได้ในสมัยประชุมนิติบัญญัติที่ผ่านมา
การปรับ ครม.หนีการอภิปรายเป็นเทคนิคที่รัฐบาลนิยมใช้ในการลดแรงเสียดทานจากศึกซักฟอก จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องรอดูให้รอบคอบจะได้ประเมินออกว่าจะเป็นใหญ่ทีเดียว หรือปรับเล็กไปพลางๆ ก่อน
เวลานี้กลุ่มก๊วนต่างๆ จึงเริ่มวิ่งกันฝุ่นตลบ !!!
ไหนจะต้องออกมาปกป้องโควตากลุ่มตัวเอง ไหนจะต้องตีกันกลุ่มก๊วนอื่นๆ ไหนจะต้องมาแบ่งโควตาที่มีอยู่น้อยแล้ว ให้กับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่จะฟื้นคืนชีพอีก ยิ่งทำให้เก้าอี้รัฐมนตรีทีมบี ทีมซี ลดน้อยลงไป
จับอาการจากสุนัย จุลพงศธรมองว่าการปรับทัพดึงรัฐมนตรีทีมเอกลับมาทำหน้าที่ต้องรอดูจังหวะว่าช่วงไหน จำเป็นจะเผด็จศึกหรือไม่ โดยเห็นว่าควรรอ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ผ่านการพิจารณาของสภาก่อนค่อยเปลี่ยนตัวกัน
ไม่ต่างจากหลายเสียงสะท้อนเวลานี้ ที่อยากให้ปรับ ครม.อีกรอบในกลุ่มแคนดิเดตที่มีอยู่ ก่อนสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะออกมาแบ่งโควตา
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เก้าอี้ที่มีจำกัด ไม่เพียงพอต่อแคนดิเดตว่าที่รัฐมนตรีที่คิวยาวเป็นหางว่าว ย่อมสะเทือนก่อเป็นคลื่นใต้น้ำที่รุมเร้ารัฐบาลรอวันปะทุอีกระลอก
ส่องดูรายชื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ยังมีหลายกลุ่ม หลายเกรด แม้หลายคนจะมีความรู้ความสามารถ แต่กลุ่มตัวเต็งที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีรอบต่อไป ถูกตีวงไว้ที่สมาชิกภาพที่เสมอต้นเสมอปลาย ไม่คิดตีชิ่งในยุคพรรคตกระกำลำบากหลังรัฐประหาร รวมทั้งจะต้องเป็นกลุ่มที่ไม่มีเสียงต้านเสียงค้านจากภายในพรรค
ตัวเก็งอันดับแรกๆ อาทิ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ภูมิธรรม เวชยชัย พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล โภคิน พลกุล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช จาตุรนต์ ฉายแสง กระทั่งน้องรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จึงน่าจะเป็นล็อตแรกที่ได้เข้ามาเสริมทีมรัฐบาลหากมีการปรับ ครม.
แน่นอนว่าระดับอดีตรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทยที่เคยบริหารรับผิดชอบกระทรวงเกรดเอมาโดยตลอด หากจะเข้ามาร่วมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ย่อมไม่อาจไปนั่งกระทรวงเกรดบี เกรดซี ได้ ขณะที่เก้าอี้ในกระทรวงเกรดเอ ปัจจุบันก็ยังเหนียวแน่นไม่น้อย
ทางออกที่เป็นไปได้เวลานี้จึงอาจค่อยๆ ผ่องถ่ายด้วยการดันไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ หรือดำรงตำแหน่งอื่นๆ รอจังหวะไปก่อน
ถัดมาที่กลุ่มซึ่งมีแรงต้านประปรายในพรรคด้วยข้อหาไม่ได้ฟันฝ่าอุปสรรคกับพรรคมาตั้งแต่ต้นอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นตัวเลือกรองตามมา
ทว่าที่ถูกจับตามากที่สุด อนุทิน ชาญวีรกูล-เนวิน ชิดชอบ อดีตตัวแปรสำคัญที่แยกตัวไปร่วมกับประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งแม้ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ จะเปิดทางไว้ แต่หลายเสียงยังออกมาดักคอด้วยข้อครหาเรื่องทรยศหักหลังที่ทำให้การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเป็นไปได้ยาก
ย้อนดูรัฐมนตรีเวลานี้หลายตำแหน่งก็รู้ตัวดีว่าไม่อาจต้านทานกระแสปรับ ครม.ได้ ไม่ว่าจะเป็น จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่เข้ามาคุมเก้าอี้ รมว.คมนาคม แบบไม่คาดคิดเพราะต้องการสยบปมปัญหาขัดแย้งภายในของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต หรือเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ของ สุชาติ ธาดาธำรงเวช หรือเก้าอี้ มท.1 ของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ล้วนแต่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ง่าย โดยเฉพาะกับผลงานที่ไม่เข้าตาในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ปรับ ครม.รอบนี้นอกจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากบ้านเลขที่ 111 อีกส่วนหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้หนี้ให้กับ เสื้อแดงโดยเฉพาะ จตุพร พรหมพันธุ์ซึ่งตกค้างจากปรับ ครม.รอบที่แล้ว
แรงกระเพื่อมที่เริ่มก่อตัวจากกลุ่มก๊วนต่างๆ ในพรรคเพื่อไทยเวลานี้ จึงเป็นอีกปัจจัยอันตรายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มองข้ามไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น